โกลเด้น กับ ลาบราดอร์ ต่างกันยังไง

ทั้งสองพันธุ์นี้ เป็นสายพันธุ์ รีทรีฟเวอร์เหมือนกัน  แต่แตกต่างกันที่ขนลาบราดอร์ จะขนสั้นกว่า โกลเด้นท์ ขนจะยาวกว่านิสัยจะคล้ายๆกัน คือ ใจดี ฉลาด ติ่งต้องบ้าง บางเวลา ไม่เป็นอันตรายกับเด็กชอบเล่นน้ำ แต่ถ้าถามว่า 2 พันธุ์นี้ใครฉลาดกว่ากัน ส่วนตัวผมคิดว่า ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ จะฉลาดกว่า

แต่นอกจากความคิดเห็นส่วนตัวแล้ว เรายังมีความแตกต่างที่แบบเจาะลึกให้อีก 4 ข้อ

1.ชาติตระกูลของโกลเด้น และลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์

โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศอังกฤษ และสก๊อตแลนด์ มีการสันนิษฐานว่า โกลเด้น รีทรีฟเวอร์มีสายเลือดผสมระหว่างสุนัขพันธุ์ Yellow Flat-Coated Retriever และ Light-Coated Tweed Water Spaniels และอาจจะมีสายพันธุ์ของ Newfoundland หรือ Bloodhound ผสมอยู่ด้วย ในขณะที่สุนัขพันธุ์ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์มีต้นตระกูลอยู่ที่นิวฟันด์แลนด์ ชายฝั่งทะเล ประเทศแคนาดา เหมือนจะเป็นญาติที่โดมาจากคนละประเทศ

2.รูปร่างหน้าตา อย่างกับแฝด

โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ จัดเป็นสุนัขขนาดกลาง มีขนปุกปุยหนาแน่นบริเวณคอ ด้านหลังขาหลัง หาง ขาหน้าและท้อง สีของขนจะมี ตั้งแต่สีทองเข้มจนถึงทองเงา ในขณะที่สุนัขพันธุ์ ลาบราดอ รีทรีฟเวอร์จะมีขนสั้น แต่ขนาดตัวและน้ำหนักใกล้เคียงกับโกลเด้น รีทรีฟเวอร์

3.นิสัยใจคอ

โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ จัดเป็นสุนัขที่มีความเป็นมิตรสูง ขี้เล่น ขี้ประจบ ช่างเอาอกเอาใจ เฉลียวฉลาด  มนุษยสัมพันธ์ดี ชอบเล่นน้ำ ส่วนสุนัขพันธุ์ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์นั้นก็จะคล้ายคลึงกับโกลเด้น รีทรีฟเวอร์มาก แต่จะแตกต่างออกไปตรงที่สามารถเป็นสุนัขเฝ้าบ้านได้ เขาจะส่งเสียงเห่าที่ทุ้ม  ต่างกับโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ ที่แม้ว่าจะเห่าเช่นกัน แต่กลับเป็นการเห่าต้อนรับอย่างชื่นบาน (ประมาณมาเข้ามาขนของได้เลยครับ)

4.การดูแลรักษา

โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ นั้นเป็นสุนัขขนยาว ปัญหาเรื่องขนร่วงจึงเป็นเรื่องที่หลีกหนีไม่ได้ ผู้เลี้ยงจึงควรหมั่นแปรงขนเป็นประจำเพื่อให้ขนไม่พันกัน และแลดูสลวย น่าชื่นชม โกลเด้น รีทรีฟเวอร์เป็นสุนัขที่มีความเป็นสัตว์สังคมสูง จึงควรมีเวลาอยู่กับเขาบ้าง

เล่นกับเขา พาไปออกกำลังกายหรือว่ายน้ำบ้าง เพราะโกลเด้น รีทรีฟเวอและลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์นั้นก็ชอบน้ำ การเลี้ยงดูจึงไม่ต่างกัน ส่วนในเรื่องของขนที่สั้นกว่า ไม่ได้แปลว่าลาบราดอร์ ไม่ต้องการการแปรงขน เขาควรได้รับการแปรงขนทุกวันเพื่อลดปัญหาขนร่วง และเรื่องของการอาบน้ำนั้น ไม่จำเป็นต้องอาบบ่อยนัก เพราะจะทำให้ชั้นขนสูญเสียไขมันที่หล่อเลี้ยง ทำให้ขนสุนัขมันเร็วขึ้น และเหนียว