- ข้อความ
- ตั้งค่า
- FAVORITES
- หน้าข่าว
- บล็อกของฉัน
- My Products
- Saved Posts
- ADVERTISING
- Ads Manager
- Boosted Posts
- Boosted Pages
- EXPLORE
- ผู้คน
- Pages
- กลุ่ม
- Events
- Blogs
- ทะเบียนอาหารสัตว์
วิธี ให้อาหารสุนัข เวลา ไม่อยู่บ้าน เลี้ยงหมาไป ทำงาน ฝึกให้สุนัขอยู่ตัวเดียว เลี้ยงปอม ตัวเดียว อยู่คนเดียว เลี้ยงหมา ทิ้ง หมาไว้ บ้าน pantip โรคเหงาในสุนัข ไม่มี เวลา เลี้ยงหมาทำไงดี
สุนัขไม่มีแรง เดินเซ อาการ ขา สุนัข ไม่มี แรง โกลเด้น ขาหลังไม่มีแรง โกลเด้น เจ็บขา ลาบราดอร์ ขาหลังไม่มีแรงจำเป็นต้องปล่อยน้องหมาแสนรักให้อยู่บ้านเพียงลำพัง มาเรียนรู้วิธีการจัดการ การเตรียมตัว รวมถึงการจัดสรรเวลาแบ่งให้น้องหมาไม่ขาดความรักจากเรากันค่ะ ว่าแต่จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
ทำไมสุนัขถึงทำลายข้าวของเวลาอยู่บ้านลำพัง
หลายต่อหลายครั้งที่เรามักพบว่า น้องหมาแสนรักของเรามักจะรื้อค้นสิ่งของต่าง ๆ ออกมากัดเล่น ขุดดิน ทำลายสวน หรือไม่ก็คว่ำจานอาหารตัวเอง ไม่ยอมกินอาหารในช่วงเวลาที่เจ้าของไม่อยู่บ้าน ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้มักจะเกิดจากการที่น้องหมาซึ่งเป็นสัตว์สังคม มักจะเกิดความเหงา วิตกกังวลและความเครียดได้ง่ายเมื่อถูกทิ้งให้อยู่ลำพัง จึงแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวต่าง ๆ ออกมาเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเจ้าของนั่นเองค่ะ
ซึ่งผู้เลี้ยงก็สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ไม่ให้เกิดขึ้นได้โดยการเริ่มฝึกให้น้องหมาคุ้นเคยกับการอยู่ตัวเดียว ตั้งแต่น้องหมามีอายุได้ 12-14 สัปดาห์ ส่วนในน้องหมาโตก็ควรเริ่มฝึกตั้งแต่สัปดาห์แรกหรือสัปดาห์ที่สองหลังจากพาเข้าบ้าน โดยต้องฝึกให้น้องหมาอยู่ในกรงตั้งแต่เด็ก ๆ ไม่ให้เข้าบ้านถ้าไม่ได้รับอนุญาต หรือใช้วิธีแกล้งออกไปจากห้องหรือบ้านก่อนสัก 30 วินาที แล้วกลับเข้ามา (น้องหมาจะดีใจแม้ แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ) ต่อมาให้ออกไปอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ทิ้งเวลาให้นานขึ้นเป็น 1 นาที แล้วก็กลับเข้ามา และเพิ่มเวลามากขึ้นเป็น 3-10 นาที โดยฝึกแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ประมาณ 5-7 วัน เพื่อให้น้องหมาได้เรียนรู้การอยู่เพียงลำพังได้ค่ะ
แต่ในกรณีที่น้องหมามีพฤติกรรมทำลายข้าวของเป็นประจำไม่ว่าจะต่อหน้าหรือในช่วงเวลาที่ผู้เลี้ยงไม่อยู่ ผู้เลี้ยงก็ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้เพราะอาจจะเกิดผลเสียในระยะยาวต่อนิสัยของน้องหมา ถ้าหากผู้เลี้ยงเห็นน้องหมากำลังรื้อของกระจัดกระจาย หรือกัดแทะสิ่งของอยู่ ก็ให้ผู้เลี้ยงทำโทษน้องหมาด้วยการนำหนังสือพิมพ์มาม้วน แล้วตีน้องหมาเบา ๆ ให้เกิดเสียงดัง เพื่อบอกน้องหมาว่า สิ่งที่น้องหมากำลังทำอยู่นั้นเป็นสิ่งผิด และถ้าทำอีกจะถูกลงโทษอีกค่ะ ... หากเราฝึกให้น้องหมาอยู่บ้านเพียงลำพังและไม่ทำลายข้าวของได้ตั้งแต่เล็ก ๆ น้องหมาก็จะสามารถอยู่บ้านได้แบบไม่มีปัญหากวนใจผู้เลี้ยงอย่างเราเลยล่ะค่ะ
เมื่อเรารู้แล้วว่า สาเหตุของการเกิดพฤติกรรมก้าวร้าวในน้องหมาแล้ว ทีนี้เราก็มาดูกันค่ะว่า เราจะต้องจัดเตรียมอะไรเพื่อให้น้องหมาอยู่บ้านเพียงลำพังได้แบบสบายใจไม่เครียด และเราเองก็จะได้หมดกังวลเวลาปล่อยให้น้องหมาอยู่บ้านเพียงลำพังกันค่ะ ซึ่งจะมี 4 ข้อหลัก ๆ ดังนี้ค่ะ
1.จัดพื้นที่ให้น้องหมาอยู่เป็นสัดส่วน
สิ่งแรกที่ผู้เลี้ยงควรทำเมื่อต้องปล่อยให้น้องหมาอยู่บ้านเพียงลำพังนั่นก็คือ จัดพื้นที่ให้น้องหมาอยู่เป็นสัดส่วน โดยเลือกพื้นที่ที่เงียบสงบ อากาศถ่ายเทได้สะดวก มีร่มเงาเพียงพอ ซึ่งอาจจะเป็นมุมใดมุมหนึ่งของพื้นที่ภายในบริเวณบ้าน ควรเป็นพื้นที่ที่จะไม่มีการย้ายหรือเปลี่ยนแปลงอีกในอนาคต เพื่อเป็นการสร้างวินัย และแบ่งเขตให้น้องหมารู้จักพื้นที่ของตัวเอง รวมถึงต้องเป็นพื้นที่ที่ง่ายต่อการดูแลทำความสะอาดด้วยนะคะ
แนะนำว่า ถ้าหากผู้เลี้ยง เลี้ยงน้องหมาแบบปล่อย ไม่ขังกรง ก็ควรจัดพื้นที่ให้มีความกว้างพอสมควร เพื่อน้องหมาจะได้วิ่งเล่นเพื่อปลดปล่อยพลังงานของน้องหมาในระหว่างที่ผู้เลี้ยงไม่อยู่บ้านได้ ส่วนผู้เลี้ยงบ้านไหนที่จำเป็นต้องจับน้องหมาขังไว้ในกรงก็ควรเลือกกรงที่มีมุ้งลวดป้องกันยุง หาเบาะที่นอนที่มีความหนาและนุ่ม ขนาดพอดีตัวใส่ไว้ในกรงให้น้องหมาได้นอนพักผ่อนกันด้วยนะคะ เพราะว่าพื้นของกรงสุนัขส่วนมากจะมีความห่างของซี่ลวด เวลาน้องหมายืนหรือนอนในกรง ก็อาจจะทำให้เท้าและขาของน้องหมาด้าน เกิดการอักเสบ หรือแผลกดทับจากการยืนหรือนอนนาน ๆ ได้ และอาจจะนำเอาเสื้อของตัวผู้เลี้ยงที่ยังไม่ได้ซักมาวางไว้บนที่นอนของน้องหมาเพื่อให้น้องหมารู้สึกว่า ผู้เลี้ยงอยู่ใกล้ ๆ ไม่ได้ทิ้งไปไหน ซึ่งจะช่วยลดความเครียดที่เกิดขึ้นกับน้องหมาได้ค่ะ และที่สำคัญผู้เลี้ยงก็อย่าลืมที่จะทำความสะอาดกรงน้องหมา เปลี่ยนแผ่นรองซับเป็นประจำเพื่อสุขอนามัยที่ดีของน้องหมาค่ะ
*** ในกรณีที่ผู้เลี้ยงมีธุระจำเป็นที่จะต้องปล่อยสุนัขไว้ที่บ้านเป็นเวลาหลายวัน แนะนำว่าให้หาคนมาดูแลน้องหมาแทน โดยอาจจะนำน้องหมาไปฝากไว้กับญาติ หรือฝากไว้กับสถานที่รับฝากเลี้ยงสุนัขจะดีกว่าปล่อยให้น้องหมาอยู่บ้านเพียงลำพัง เพื่อป้องกันการเกิดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับน้องหมา และเพื่อลดปัญหาความขัดแย้งกับเพื่อนบ้าน เพราะในช่วงเวลาที่ผู้เลี้ยงไม่อยู่บ้าน สุนัขอาจจะเห่าเสียงดัง เห่าไม่หยุด ซึ่งอาจจะรบกวนเพื่อนบ้านคนอื่น ๆ ในบริเวณใกล้เคียงได้ค่ะ
2.จัดเตรียมน้ำและอาหารให้พร้อม
ถือเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ สำหรับการปล่อยให้น้องหมาอยู่บ้านเพียงลำพังนั่นก็คือ ผู้เลี้ยงควรจัดเตรียมน้ำ และอาหารให้เพียงพอกับความต้องการของน้องหมา โดยผู้เลี้ยงควรคำนวณหาปริมาณอาหารที่เหมาะสมต่อวันของน้องหมา โปรแกรมการคำนวณหาปริมาณอาหารที่เหมาะสมต่อวันของน้องหมา หากผู้เลี้ยงมีความจำเป็นที่จะต้องปล่อยให้น้องหมาอยู่บ้านเพียงลำพังเป็นประจำ ผู้เลี้ยงก็อาจจะลงทุนซื้อเครื่องให้อาหารน้องหมาแบบอัตโนมัติ ที่สามารถตั้งเวลาได้ ควบคุมปริมาณอาหารในแต่ละมื้อมาไว้ให้น้องหมาสักเครื่อง ซึ่งจะช่วยฝึกวินัยในการกินอาหารของน้องหมาได้เป็นอย่างดีเลยล่ะค่ะ
ทั้งนี้ ผู้เลี้ยงก็ควรหมั่นทำความสะอาดชามน้ำ ชามอาหาร และเปลี่ยนน้ำเป็นประจำทุกวัน เพราะว่า ชามอาหารของน้องหมาถือเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคชั้นดีที่อาจส่งผลให้น้องหมาเกิดโรคต่าง ๆ ได้ค่ะ และที่สำคัญผู้เลี้ยงก็อย่าลืมที่จะเลือกชามน้ำชามอาหารที่มียางกันลื่นอยู่ด้านล่างให้น้องหมานะคะ เพราะชามที่มียางกันลื่นด้านล่างจะสามารถยึดเกาะกับพื้นได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะช่วยให้น้องหมากินอาหาร กินน้ำได้อย่างสะดวกมากกว่าชามน้ำที่ไม่มียางกันลื่นด้านล่าง ซึ่งจะช่วยลดโอกาสเสี่ยงที่น้ำจะหกในระหว่างวันที่ผู้เลี้ยงไม่อยู่ได้เป็นอย่างดีเลยล่ะค่ะ
3.เก็บข้าวของให้เรียบร้อยอยู่เสมอ
ถ้าน้องหมาของผู้เลี้ยงเป็นน้องหมาที่มีพลังงานสูง และมีความซุกซนอยู่ในสายพันธุ์อย่างเช่น บีเกิ้ล แจ็ครัสเซล ไซบีเรียน ฮัสกี้ ฯ แล้วล่ะก็ ผู้เลี้ยงก็จำเป็นที่จะต้องมีระเบียบมากขึ้นกว่าปกติ โดยผู้เลี้ยงจะต้องหัดสังเกตตรวจสอบ และเก็บสิ่งของที่คิดว่า น้องหมาจะคาบมากัดทำลายให้อยู่ในตำแหน่งที่น้องหมา เอาไม่ถึง (เก็บให้พ้นปากหมา) จะดีที่สุด เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาน้องหมากัดแทะข้าวของ รื้อของใช้ต่าง ๆ ในบ้านออกมาจนกระจัดกระจาย ซึ่งจะทำให้ผู้เลี้ยงหงุดหงิด หัวเสียที่น้องหมาทำสิ่งของสำคัญเสียหาย ซึ่งอาจทำให้เกิดการลงโทษน้องหมาได้ค่ะ สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังตัดสินใจและอยากจะเลี้ยงน้องหมาสายพันธุ์ที่มีความซนก็สามารถเข้าไปอ่านบทความ เตรียมตัวให้พร้อม ก่อนเลี้ยงน้องหมาซน ... กันได้นะคะ
โดยส่วนมากแล้วสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้น้องหมากัดแทะทำลายข้าวของมักจะเกิดจากการที่น้องหมาเครียดที่ต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง น้องหมามีพลังงานมาก หรือน้องหมาอาจจะทำเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเจ้าของ และรู้สึกถูกเจ้าของทิ้ง น้องหมาจึงหากิจกรรมต่าง ๆ ทำเพื่อระบายความเครียดออกมา โดยพฤติกรรมที่เรามักพบเห็นบ่อย ๆ ได้แก่ ขุดสวน รื้อถังขยะ หาสิ่งของมากัดแทะจนพังกระจัดกระจายเต็มพื้นที่บ้าน
ดังนั้น วิธีการป้องกันไม่ให้ปัญหาน้องหมากัดแทะ ทำลายข้าวของที่ดีที่สุด นั่นก็คือ ผู้เลี้ยงควรเก็บข้าวของที่เสี่ยงน้องหมาจะนำมากัดแทะให้อยู่ในที่ปลอดภัย และถ้าเป็นน้องหมาเด็ก ผู้เลี้ยงควรหลีกเลี่ยงการเล่นแย่งของ แย่งตุ๊กตากับน้องหมา เพราะจะไปกระตุ้นสัญชาตญาณการกัดแทะของน้องหมา ให้ชอบกัดทำลายข้าวของต่อไปในอนาคตได้ค่ะ สามารถศึกษาได้จากบทความ ฝึกไม่ให้แทะสิ่งของ
4.แบ่งเวลาใส่ใจดูแลน้องหมา
ในทุกวันหลังจากที่ผู้เลี้ยงกลับมาจากการทำธุระนอกบ้าน สิ่งที่ควรทำที่สุดคือ การสัมผัสตัวและพูดคุยกับน้องหมาเมื่อมาถึงบ้าน เพื่อคลายความเหงาและสร้างความสุขให้น้องหมา แต่ก่อนที่ผู้เลี้ยงจะสัมผัสตัวน้องหมานั้น ผู้เลี้ยงควรให้น้องหมาสงบนิ่ง หยุดอาการตื่นเต้นดีใจก่อน แล้วจึงค่อยเข้าไปหา ทักทายน้องหมาแบบเงียบ ๆ ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดคือ ลูบตัวลูบหัวน้องหมาพอประมาณ พร้อมกับพูดชื่นชมน้องหมาว่า “ทำดีแล้ว” “เก่งมาก” การทำแบบนี้จะทำให้น้องหมาเข้าใจว่า การสงบนิ่ง หรือนั่งเรียบร้อยเท่านั้น ที่จะสามารถเรียกร้องความสนใจจากเราได้ค่ะ
นอกจากนี้แล้วผู้เลี้ยงยังควรแบ่งเวลาหากิจกรรมต่าง ๆ ทำในเวลาว่าง โดยให้น้องหมาเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งกิจกรรมที่ดีที่สุดที่จะสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้เลี้ยงและน้องหมาคือ การพาน้องหมาไปออกกำลังกาย โดยผู้เลี้ยงอาจจะแบ่งเวลาให้น้องหมาเป็น 3 ช่วงเวลา คือ ช่วงเช้า ช่วงเย็นของทุกวัน และวันหยุดเสาร์อาทิตย์ก็ได้ค่ะ
ตอนเช้า
ในช่วงเช้าก่อนที่ผู้เลี้ยงจะออกไปทำธุระนอกบ้าน ผู้เลี้ยงก็อาจจะใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที พาน้องหมาไปเดินเล่นรอบ ๆ หมู่บ้านหรือสัมผัสแดดอ่อน ๆ ในสวนสาธารณะ เพื่อให้น้องหมาได้ปลดปล่อยพลังงาน โดยเฉพาะกับน้องหมาสายพันธุ์ที่มีพลังงานสูง หรือน้องหมาพันธุ์เทอร์เรียทั้งหลายเป็นน้องหมาที่ต้องการการออกกำลังกาย ซึ่งผลดีของการพาน้องหมาไปออกกำลังกายในตอนเช้านั้น จะช่วยลดปัญหาพฤติกรรมก้าวร้าว ทำให้น้องหมาอยู่บ้านอย่างสงบ ไม่เครียด ไม่ทำลายข้าวของ และช่วยเสริมสร้างให้น้องหมามีสุขภาพแข็งแรง ส่วนผู้เลี้ยงเองก็ยังจะได้มีสุขภาพร่างกาย และจิตใจแจ่มใส สมองปลอดโปร่งก่อนไปทำงานเช่นเดียวกันด้วยนะคะ วินวินกันทั้งคนทั้งน้องหมาเลยล่ะ ^^”
ตอนเย็น
ในช่วงเย็นตั้งแต่เวลา 17.30 น. เป็นต้นไป ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะพาน้องหมาออกไปเปิดหูเปิดตา เดินออกกำลังกาย ยืดเส้นยืดสาย ผ่อนคลายความตึงเครียดจากการที่อยู่แต่ในบริเวณบ้านมาทั้งวัน โดยในช่วงเย็นนี้ เราอาจจะใช้เวลาสักประมาณ 40 นาที ถึง 1 ชั่วโมงก็เพียงพอแล้วค่ะ ส่วนสำหรับผู้เลี้ยงที่เลี้ยงน้องหมาสายพันธุ์ที่มีขนหนา ขนสองชั้น หรือน้องหมาที่มีโครงสร้างหน้าสั้น ตาโปน อย่าง ปั๊ก หรือเฟรนช์บูลด็อก ก็ต้องระวังอย่าให้น้องหมาเล่นซนเข้าไปในพุ่มไม้ หรือวิ่งเป็นเวลานาน ๆ นะคะ เพราะใบไม้กิ่งไม้อาจจะทิ่มเข้าตาได้ และอาจจะทำให้น้องหมาเกิดอาการเป็นลมแพ้ร้อน หรือ อาการ "Heat stroke" (อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ ทำยังไงดี เมื่อน้องหมาเกิดอาการ "Heat stroke") ได้ค่ะ
และที่สำคัญเพื่อนๆ ควรเตรียมที่ให้น้ำแบบพกพา และถุงเก็บอึน้องหมาไปด้วย เพื่อที่จะได้ไม่เป็นภาระคนอื่นๆ ที่อาจจะมาเหยียบอึ ฉี่ ของน้องหมาของเราได้นะคะ ^^”
วันหยุดเสาร์อาทิตย์
ในวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ ถือเป็นช่วงเวลาทองของผู้เลี้ยงที่จะมีโอกาสได้ดูแลน้องหมาอย่างเต็มที่ โดยผู้เลี้ยงอาจจะใช้เวลาในช่วงเสาร์-อาทิตย์นี้ อาบน้ำ ตัดขน ตัดเล็บให้น้องหมา พาน้องหมาไปออกกำลังกายตามสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงยังเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการฝึกน้องหมาให้ทำตามคำสั่งและฝึกวินัย หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกันเพื่อสร้างความสัมพันธ์และความใกล้ชิดให้มากขึ้น ซึ่งอาจรวมไปถึงการเช็คโปรแกรมสุขภาพ หรือพาน้องหมาไปตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์ด้วยค่ะ ... แบบนี้น้องหมาก็ไม่เหงา ไม่ขาดความรัก แถมยังเป็นน้องหมาสุขภาพจิตดีอีกด้วยนะคะ
... เห็นไหมคะว่า การปล่อยให้น้องหมาอยู่บ้านเพียงลำพังไม่ใช่สิ่งที่เราต้องเป็นกังวลเลย เพียงแค่เรารู้จักการจัดการ การบริหารเวลาแบ่งให้น้องหมาบ้าง เขาก็จะมีความสุข ไม่เป็นน้องหมามีปัญหา ไม่เกิดพฤติกรรมก้าวร้าว สามารถอยู่บ้านได้แบบไม่มีปัญหากวนใจผู้เลี้ยง แถมยังมีสุขภาพร่างกาย และจิตใจที่แข็งแรงแล้วล่ะค่ะ
บทความโดย : Dogilike
ภาพประกอบ :
http://www.jokeroo.com/pictures/dogs/home-alone-and-make-a-mess.html
http://gratefuldogsrescue.org/grateful-dogs-rescue-blog/tag/Missing_Dog/
http://funstufffordogs.wordpress.com/category/free-tips-ideas-from-dog-owners/
http://now.msn.com/home-alone-dogs-depressed-even-self-harming-says-documentary
http://www.macclesfield-express.co.uk/news/local-news/naughty-step-big-softy-who-2530412
http://blog.bestfriendspetcare.com/2012/08/help-the-family-dog-beat-the-back-to-school-blues/
สั่งซื้อ CalFlex ตอนนี้ลดราคาจาก 1280 บาท เหลือ 1150 บาทเท่านั้น เลขจดแจ้ง 0108640006
- Japan
- chat
- vs
- ภาษาหมา
- Golden Retriever โกลเด้น
- Labrador Retriever ลาบราดอร์
- Siberian Husky ไซบีเรียน ฮัสกี้
- Pug ปั๊ก
- Beagle บีเกิ้ล
- Pomeranian ปอมเมอเรเนียน
- Chihuahua ชิวาวา
- Shihtzu ชิห์สุ
- บางแก้ว
- หมา แมว
- สุนัขไม่มีแรง เดินเซ อาการ ขา สุนัข ไม่มี แรง โกลเด้น ขาหลังไม่มีแรง โกลเด้น เจ็บขา ลาบราดอร์ ขาหลังไม่มีแรง
- สุนัข กระเพาะปัสสาวะอักเสบ รักษา สุนัข กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ค่ารักษา สมุนไพรรักษานิ่วในสุนัข อาการกระเพาะปัสสาวะแตกในสุนัข อาหาร สุนัข กระเพาะปัสสาวะอักเสบ สุนัข กระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรัง นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ สุนัข สุนัขเป็นนิ่ว ผ่าตัด อาหารรักษานิ่ว
- แมวเดินเซ pantip แมวมีอาการสั่น ไม่มีแรง แมวคอเอียง เดินเซ แมว ตัวโยก แมวทรงตัวไม่ได้ ลูกแมวเดินแปลกๆ แมว ขาหลัง ไม่มี แรง ทำ ไง ดี แมว กล้าม เนื้อ ขาอ่อน แรง
- สุนัข หายใจติดขัด สุนัขหายใจแรง ตัวสั่น สุนัขหายใจแรง ไม่กินอาหาร ชิวาว่าหายใจติดขัด สุนัขหลอดลมตีบ อาการ สุนัขหายใจแรง
- โรคไตในสุนัขระยะสุดท้าย สุนัขไตวายเฉียบพลัน โรคไตในสุนัข pdf โรคไตสุนัขเกิดจาก อาหารโรคไต สุนัข ป้องกันโรคไต สุนัข อาหารสุนัขโรคไต ทําเอง สุนัขโรคไต ไม่กินอาหาร
- โรคหัดสุนัข หัด สุนัข หัด สุนัข รักษา หาย ไหม หัด สุนัข อาการ โรค หัด สุนัข รักษา หาย โรค หัด สุนัข อาการ โรค หัด สุนัข โรค หัด สุนัข เดิน ไม่ ได้
- ภาษาแมว
- สุนัขกล้ามเนื้ออักเสบ
- นกขาดแคลเซียม อาการ นกทรงตัวไม่ได้ นก ยืนไม่ได้ นกกรงหัวจุก ขา ไม่มี แรง นกขาอ่อนแรง
- Wellness
- Vote
- ภาษานก
- Uncategorized