การที่แมวอยู่ใกล้ๆ คือการแสดงความรักอย่างนึงของเค้า เวลาที่แมวมาอยู่ใกล้ๆ เค้าจะมองเราด้วยสายตาแห่งความรัก แน่นอนว่า ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ เราสามารถสังเกตอารมณืน้องแมวได้ ว่าเค้ามีความสุข ขนาดไหน ถ้าสายตาของเค้าอ่อนโยน แสดงว่าตอนนี้แมวรู้สึกสบายใจ แสดงว่า แมวมั่นใจในตัวเรามากๆ ว่าสามารถเป็นที่พึ่งให้แมวได้ แต่ถ้า ม่านตาของน้องแมวขยาย ตาแข็งๆ แสดงว่า แมวกำลังกังวล และตื่นเต้นกับอะไรบางอย่างอยู่ แมวมาใกล้ๆเรา เพื่อหาความมั่นคง และบางครั้งอาจจะส่งเสียงร้อง หรือบ่นกับเราเรื่องที่เขาไม่สบายใจ แล้วแมวของคุณชอบอยู่ใกล้ๆหรือเปล่า เม้นมาบอกกันได้นะครับ

แมวเป็นสัตว์ที่มีประสาทหูดีมาก สามารถได้ยินเสียงที่ความถี่ 40 – 65,000 Hz เลยทีเดียว ซึ่งคนสามารถรับเสียงได้สูงสูดแค่ 20,000 Hz เท่านั้น เพราะว่ามีประสาทรับเสียงที่ดี แมวจึงมักจะชอบอยู่ในที่เงียบ ๆ สงบ ไม่ชอบความวุ่นวายหรือเสียงดัง ๆ นอกจากนี้ แมวยังแสดงอาการผ่านหูได้อีกด้วย วิธีสังเกตท่าทางน้องแมวจากหู ก็อย่าง เช่น
หูบานออกด้านข้าง น้องแมวที่หูตั้ง และหูทั้งสองข้างบานออกด้านข้าง เป็นสัญญาณว่ากำลังผ่อนคลายหรือสบายใจนั่นเอง แต่ควรดูอาการแมวอื่น ๆ ประกอบด้วยก่อนเข้าไปเล่นด้วยนะ
หูตั้งตรง ปกติแล้ว หูของแมวจะตั้งตรง นั่นเป็นสัญญาณว่ากำลังอยู่ในอารมณ์ปกติ ไม่หือ ไม่อือ เล่นด้วยได้ แต่จะอยากเล่นด้วยไหมก็อีกเรื่อง
หูสั่นไปมา น้องแมวที่เราเรียกชื่อแล้ว ทำหูสั่นไปมา แปลว่ากำลังประหม่าอยู่นั่นเอง อาจจะกำลังประมวลผลอยู่ว่าควรทำอะไรต่อ
หูหันไปหน้าหลัง สำหรับน้องแมว เวลาที่เราเข้าไปลูบหัวหรือเล่นด้วย ทำตัวแข็งและใบหูหันไปด้านหลัง อาจจะแปลว่ากำลังโกรธ หรือคับข้องใจอยู่ ถ้าน้องแมวทำหูแบบนี้ให้ระวังตัวไว้ให้ดี!
หูลู่ เวลาที่แมวกำลังจะโจมตี มักจะทำหูลู่ไปด้านหลัง เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมที่จะกระโจนใส่ศัตรู
หูตั้ง ทำหูผึ่ง น้องแมวที่ทำหูตั้ง และทำหูผึ่ง เป็นท่าทางที่บอกว่ากำลังตั้งใจ หรือสังเกตอะไรอยู่ บางครั้งที่ทาสแมวทั้งหลายกำลังนินทาหรือบ่น ก็อาจจะกำลังเงี่ยหูฟัง และตั้งใจฟังว่าเรากำลังนินทาว่าอะไรบ้าง อย่าคิดว่าเราไม่รู้นะเจ้าทาส!
สังเกตท่าทางน้องแมวจากแววตา

แน่นอนว่าดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ ทาสแมวสามารถสังเกตอารมณ์ของแมวได้จากแววตา ว่าเจ้านายของเรากำลังคิดอะไรอยู่หรือว่าต้องการอะไรกันแน่
ตาปกติ ถ้าน้องแมวทำตาปกติก็สบายใจได้เลย เพราะว่าน้องแมวกำลังรู้สึกสบายใจและกำลังพักผ่อนอยู่นั่นเอง
ทำตาเหมือนลูกลำไย น้องแมวที่ทำตาโตเหมือนลูกลำไย แปลว่าน้องแมวกำลังรู้สึกสนใจอยู่ อย่างตอนที่เจอของเล่น หรือเจอสัตว์ตัวเล็ก ๆ แต่ถ้าน้องแมวทำตาลำไยใส่เรา แปลว่าแมวกำลังรู้สึกเชื่อใจ
รูม่านตาขยาย ตาแข็ง แมวที่รู้สึกกลัว กังวล หรือตื่นเต้น รูม่านตาจะขยายใหญ่ขึ้น คล้าย ๆ ตาลำไย แต่ว่าตาจะแข็ง บางครั้งทาสแมวอาจจะสับสนได้ ว่ากำลังเชื่อใจเรา หรือว่ารู้สึกกลัวเรากันแน่ ตอนที่เราเข้าไปเล่นด้วย
หรี่ตา หรือเบิกตากว้าง น้องแมวที่หรี่ตาใส่ด้วยอินเนอร์นางร้ายในละคร หรือเบิกตากว้างเหมือนกำลังช็อค แปลว่าแมวกำลังเครียด กลัว และพร้อมต่อสู้นั่นเองค่ะ ถ้าไปเล่นด้วยแล้วน้องแมวทำตาแบบนี้ให้ระวังตัวเลย
หรี่ตา หูลู่ นอกจากการหรี่ตาแบบนางร้ายในละครแล้ว การหรี่ตาและทำหูลู่ไปพร้อม ๆ กัน ก็อาจจะแปลได้ว่าแมวกำลังรู้สึกโกรธ มั่นใจ และกระสับกระส่ายได้
จ้องตาไม่กระพริบ สำหรับน้องแมวที่จ้องตาเราไม่กระพริบ ไม่ได้แปลว่าน้องตกตะลึงในความสวยหรือความแปลกของเรา แต่เป็นการแสดงอำนาจแบบแมว ๆ และพร้อมที่จะแสดงความก้าวร้าวอีกด้วย ถ้าเราไม่เทข้าวให้น้อง ตอนน้องหิว รับรองว่ามีเรื่องแน่นอน
สังเกตท่าทางน้องแมวจากหาง

นอกจากหูแล้ว การสังเกตท่าทางน้องแมวจากหางก็สำคัญไม่แพ้กัน หางของแมวมักจะมีเส้นประสาทเชื่อมต่อไปถึงสมองของแมว ถ้าดึงหางแมวแรง ๆ อาจจะทำให้แมวเป็นอัมพาตได้เลย แถมอาจจะส่งผลต่อระบบขับถ่ายของแมวอีกด้วย ถ้าใครที่เลี้ยงแมวและเลี้ยงเด็กด้วย อาจจะต้องระวัง หรือสอนไม่ให้เด็กดึงหางแมวแรง ๆ และการสังเกตท่าทางจากหางน้องแมว เป็นการสังเกตอารมณ์แมวได้ชัดเจนที่สุด
หางปกติ หางปกติของแมวจะเป็นหางตั้งตรง ที่ยังดูมีความผ่อนคลายอยู่ ถ้าแมวทำหางปกติก็แสดงว่าน้องอยู่ในอารมณ์แฮปปี้ และกำลังผ่อนคลายนั่นเอง ถ้าอยากจะเข้าไปเล่นด้วยก็สามารถเล่นได้
หางตีพื้น ถ้าแมวเริ่มทำท่าขึงขังโดยการเอาหางฟาดกับพื้นหรือตีกับพื้น ให้รู้เลยว่าน้องกำลังโกรธ หรือรำคาญ ให้หยุดเล่นเดี๋ยวนี้! ไม่งั้นจะโจมตีแล้วนะ
ปลายหางเป็นตะขอ สำหรับแมวที่ทำหางงอ ๆ เหมือนปลายตะขอ เป็นสัญญาณว่าผ่อนคลาย สามารถเล่นได้ แต่มีความระแวงอยู่นิด ๆ ถ้าเล่นน้องแรง ๆ น้องอาจจะกลัวและวิ่งหนีได้
พองหางฟู ๆ การทำตัวให้ใหญ่ขึ้น เป็นสัญชาติญาณการล่าของสัตว์ การพองหางฟู ๆ ของแมวก็เหมือนกัน ถ้าน้องแมวพองหางฟู ๆ แปลว่าน้องแมวรู้สึกโกรธมาก และพร้อมโจมตีนั่นเอง
เก็บหางเข้าหว่างขา เวลาเราอุ้มน้องขึ้นมาเล่น บางครั้งน้องจะเอาหางเก็บซุกเข้าหว่างขา เป็นท่าทางที่บ่งบอกว่ากำลังรู้สึกเขินอายหรือกลัว
หางลู่ ถ้าน้องแมวทำหางลู่ พร้อม ๆ กับหันมามองแบบระแวง ๆ แปลว่าแมวกำลังรู้สึกกลัว กังวล หรือถ้าน้องร้องพร้อมทำหางลู่ ตัวลีบ ๆ แปลว่าน้องรู้สึกเจ็บ
สั่นหางเล็กน้อย ถ้าแมวกำลังนอน หรือจ้องอะไรซักอย่างพร้อมกับสั่นหางเล็กน้อย แปลว่าแมวอาจจะกำลังพักผ่อน หรือกำลังตั้งสมาธิ
สังเกตท่าทางน้องแมวจากท่าทาง

นอกจากการสังเกตแววตา หู หรือหางของน้องแมวแล้ว การสังเกตท่าทางของแมวก็อาจจะทำให้เรารู้ได้ว่าแมวกำลังรู้สึกยังไง หรืออยู่ในโหมดไหนกันแน่ โดยท่าทางของแมวนั้น ก็จะมีด้วยกันหลัก ๆ ดังนี้
นอนหงายพุง ถ้าแมวนอนแผ่พุงหลังจากกินเสร็จ หรือแผ่พุงตอนที่เล่นกับเรา แปลว่าน้องแมวไว้ใจเรามาก และหมายถึงความสบายใจนั่นเอง เพราะบริเวณพุงแมว เป็นบริเวณที่ค่อนข้างบอบบาง ถ้าแผ่พุงให้จกแปลว่าแมวรักเรา
นอนในที่แคบ ๆ ถ้าแมวชอบนอนในกล่องหรือซุกในที่แคบ ๆ แปลว่ากำลังหาที่ ๆ รู้สึกปลอดภัยอยู่นั่นเอง แนะนำว่าอย่าพยายามไปหยอกหรือไปแกล้ง ปล่อยให้ได้น้องนอนอย่างสบายใจดีกว่า
นอนขดเหมือนก้อนขนมปัง แมวที่ชอบนอนขด เก็บแขน เก็บขาเก็บหางเหมือนก้อนขนมปัง อาจจะแปลว่าหนาว หรือกำลังพักผ่อนอยู่นั่นเอง แนะนำว่าอย่าไปรบกวน
นอนตะแคงข้างมอง น้องแมวที่นอนตะแคงข้าง และสะบัดหางอย่างสบายใจ เป็นท่านอนที่แมวใช้ระวังภัย เป็นท่านอนที่แมวสามารถลุกได้อย่างรวดเร็วหากว่ามีภัย
นอนราบ เหยียดขาหลัง สำหรับน้องแมวที่ชอบนอนราบ เหยียดขาหลังยาว ๆ เป็นท่าทางที่บอกว่าแมวกำลังรู้สึกชิล
เข้ามานัวเนีย สำหรับน้องแมวที่เข้ามาอ้อน เอาหัวมาถู เป็นท่าทางการแสดงความเป็นเจ้าของแบบแมว ๆ นั่นเอง เพราะว่าตรงหัวแมวมีต่อมกลิ่นอยู่ แมวจะเอากลิ่นนี้มาป้ายเพื่อทำสัญลักษณ์ไว้นั่นเอง หรือจะแปลว่าแมวทำสัญญาทาสกับเราก็ได้ เพราะเวลาแมวมาน้วย ๆ กับเราเนี่ย น่ารักที่สุด!
สังเกตอารมณ์น้องแมวจากเสียงร้อง
นอกจากท่าทางแล้วก็ยังสังเกตอารมณ์แมวได้จากเสียงร้อง อย่างการร้องเมี๊ยว ด้วยเสียงปกติ อาจจะแปลว่า เทข้าวให้หน่อย หรืออยากเล่น แต่ถ้าแมวร้องเสียงต่ำ และสั้น ๆ นั่นอาจจะเป็นสัญญาณ หรือคำสั่งจากแมวว่า รีบ ๆ เทข้าว หรือรีบ ๆ เอาใจใส่เราซักทีนะนังทาส ก่อนที่จะมีน้ำโห! ส่วนน้องแมวที่ร้องเสียงดังซ้ำ ๆ อาจจะแปลว่าเจ็บ หรือป่วย การทำเสียงครางในลำคอ แปลว่ากำลังฟิน และการทำเสียงขู่ หรือคำราม แปลว่ากำลังโกรธและพร้อมจะโจมตีนั่นเองค่ะ 
แต่การสังเกตนี้เป็นการสังเกตแบบคร่าว ๆ เพียงเท่านั้นนะคะ ถ้าเราเลี้ยงแบบเอาใจใส่และเล่นกับแมวบ่อย ๆ ก็จะสามารถรับรู้ได้เองว่าแมวรู้สึกยังไง และถ้าอยากให้แมวรักแมวหลง นอกจากสังเกตแล้ว ก็อย่าลืมเลี้ยงดูด้วยความรัก เล่นด้วยบ่อย ๆ และหาของอร่อยให้กิน ไม่ทำให้แมวเครียด หรือทิ้งให้แมวอยู่ตัวเดียวนาน ๆ เท่านี้น้องแมวก็รู้สึกอบอุ่นและไม่อยากออกจากบ้านไปไหนแล้ว แต่ถ้าทำหมดนี่แล้วแมวยังไม่รักอีก ก็คงแนะนำได้แค่ว่า ไปสวดมนต์เอานะ   อ่านต่อได้ที่ https://www.wongnai.com/articles/cat-language?ref=ct