สาเหตุที่ทำให้เกิดการชักและเกร็งมีหลายๆสาเหตุ วันนี้เรามายก สาเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยๆในประเทศไทยกัน

1.ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia)

การเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำนั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้น้องหมามีอากาชัก หมดสติและอาจถึงแก่ชีวิตได้ ภาวะนี้อาจเกิดได้ทุกช่วงเวลา โดยพบว่ามีโอกาสเกิดได้มากขึ้นในลูกสุนัขและน้องหมาพันธุ์เล็ก เนื่องจากมีอัตราเผาผลาญพลังงานที่มากกว่าน้องหมาพันธุ์ใหญ่หรือน้องหมาที่โตเต็มที่แล้ว

อาการที่พบ ได้แก่ เซื่องซึม ไม่ร่าเริง ลุกขึ้นยืนทรงตัวไม่อยู่ ตาเหม่อลอย มักมีอาการกล้ามเนื้อกระตุกและชัก ซึ่งอาจทำให้เกิดการเสียหายของเซลล์สมอง จนเกิดภาวะโคม่าและเสียชีวิตได้

เมื่อพบความผิดปกติแต่ยังไม่รุนแรงมาก (ยังไม่พบอาการชักเกร็ง) เจ้าของสามารถปฐมพยาบาลที่บ้านก่อนโดยการให้สารอาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น น้ำผึ้ง น้ำเชื่อม เป็นต้น ป้ายบริเวณเหงือกและปากเพื่อช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด ในกรณีที่เริ่มมีอาการกระตุกหรือชัก ต้องรีบพามาพบสัตวแพทย์เพื่อให้กลูโคสและสารน้ำทางเส้นเลือด

สามารถป้องกันได้โดยการแบ่งให้อาหารวันละหลายๆมื้อ เพื่อไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดทิ้งช่วงนานเกินไป ในลูกสุนัขเล็กหรือน้องหมาที่มีขนาดเล็กมาก เช่น พันธุ์ชิวาวา หรือสุนัขพันธุ์เล็กขนาดทีคัพ อาจจะแบ่งให้อาหารทุก 4-8 ชั่วโมง นอกจากนี้ควรเตรียมสารอาหารที่มีน้ำตาลสูงและดูดซึมง่าย เช่น กลูโคสผง น้ำผึ้ง น้ำเชื่อม เป็นต้น ไว้เสริมในกรณีที่เริ่มทานอาหารลดลง หรือใช้ปฐมพยาบาลในกรณีที่เริ่มมีอาการผิดปกติที่คาดว่าจะเกิดจากภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ

2.ภาวะไข้น้ำนม (แคลเซียมในเลือดต่ำ)

ภาวะไข้น้ำนมนี้ก็คือ ภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำนั่นเอง ส่งผลให้น้องหมาแสดงอาการผิดปกติ ได้แก่ น้องหมาจะแสดงอาการขาสั่น ยืนทรงตัวไม่อยู่ บางทีอาจดูเหมือนกำลังชัก มักจะมีอุณหภูมิร่างกายสูง (มากกว่า 103 องศาฟาเรนไฮต์) ซึ่งต้องรีบพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อทำการรักษา โดยสัตวแพทย์จะทำการฉีดแคลเซียมเข้าสู่กระแสเลือด ให้น้ำเกลือ และให้แอดมิทดูอาการซักระยะหนึ่ง

โดยมากภาวะนี้มักพบในน้องหมาที่กำลังให้นมลูก โดยเฉพาะน้องหมาที่เลี้ยงลูกดี ให้ลูกกินนมตลอด ดังนั้นการป้องกันภาวะนี้ทำได้โดยการเสริมแคลเซียมให้แก่แม่สุนัขในช่วงให้นมลูก ในกรณีที่แม่สุนัขแสดงอาการของภาวะไข้น้ำนมนี้ และลูกสุนัขมีอายุเกิน 1 เดือนขึ้นไป หลังจากรักษาอาการผิดปกติให้แม่สุนัขแล้ว จะแนะนำให้ลูกสุนัขหย่านมเลยก็ได้ ส่วนในกรณีที่ลูกสุนัขยังไม่ถึงวัยที่จะหย่านมได้ เจ้าของอาจจะต้องหานมไปป้อนให้แก่ลูกสุนัข (ควรเป็นนมที่ผลิตสำหรับลูกสัตว์โดยเฉพาะ ไม่ควรใช้นมวัวทั่วๆไป เพราะอาจมีปัญหาเรื่องการย่อย และทำให้ลูกสุนัขท้องเสียได้ค่ะ) เพื่อช่วยไม่ให้แม่สุนัขต้องเสียแคลเซียมไปกับการผลิตนมมากเกินไป

3.โรคไข้หัดสุนัข

โรคไข้หัดสุนัข (Canine Distemper) เป็นโรคติดต่อร้ายแรงในลูกสุนัขและมีอัตราตายสูงมากในลูกสุนัขที่ติดเชื้อนี้แม้จะได้รับการรักษาจากสัตวแพทย์ก็ตาม มักพบอาการในน้องหมาอายุ 3-6 เดือน เชื้อไวรัสชนิดนี้ทำให้เกิดอาการในหลายระบบ ได้แก่ ทางเดินหายใจ (ไอ จามมีขี้มูกขี้ตาเกรอะกรัง ปอดและ/หรือหลอดลมอักเสบ) ทางเดินอาหาร (อาเจียน ท้องเสีย) ผิวหนัง (มีตุ่มแดงหรือตุ่มหนองขึ้นที่ผิวหนัง ฝ่าเท้าหนาผิดปกติ) และระบบประสาท (มีการทำลายเซลล์ในระบบประสาทและสมอง ทำให้มีอาการต่างๆ เช่น มีอาการชักเกร็ง หน้าหรือปากกระตุก หัวเอียง เดินวน เดินเซ ยืนทรงตัวไม่ได้ เป็นต้น) มักพบว่าน้องหมามักจะมีไข้สูงตลอดเวลาร่วมด้วย ในกรณีที่รอดชีวิตมาได้ ก็พบว่ามักจะมีอาการทางระบบประสาทไปตลอดชีวิต หรืออาจมีปัญหาระบบทางเดินหายใจเรื้อรังได้

การรักษานั้นจะเป็นการรักษาตามอาการของโรค ในกรณีที่น้องหมามีอาการทางประสาทร่วมด้วย โดยเฉพาะการชักเกร็งนั้น ก็จะมีการให้ยาระงับชักกินไปตลอดชีวิตเพื่อควบคุมอาการ 

ถ้าน้องหมาของคุณมีอาการเดินไม่ได้ได้ ขาอ่อนแรง แนะนำให้กิน Antinol ลดอาการปวดและอักเสบ แนะนำให้กินคู่กับ Calflex ที่ช่วยบำรุงระบบประสาทโดยตรงและเพิ่มน้ำไขข้อกระดูก ทำให้น้องหมาฟื้นตัวและกลับมาเดินได้อีกครั้ง ด้วยรัก