โดยธรรมชาติแล้วสุนัขจะสื่อสารกันด้วยท่าทางและภาษากายเป็นหลัก ซึ่งความหมายของการแสดงออกจากทั้งสีหน้า แววตา และ การกระดิกหางอาจมีความหมายที่แตกต่างกันได้ด้วยรายละเอียดเล็กน้อย อย่าง ระดับความสูงของการยกหาง ความเร็วของการเคลื่อนไหว นั่นหมายความว่าบางครั้งการกระดิกหางก็ไม่ได้แปลว่าน้องหมาตัวนั้นกำลังเฟรนลี่อยู่เสมอไป

เพื่อให้สามารถเข้าใจพฤติกรรมและความรู้สึกของน้องหมาได้ วันนี้ my home อยากชวนทุกคนมาลองมาสังเกตกันดูนะคะว่า ท่าทาง และ หางสุนัขบอกอารมณ์ อะไรกันบ้าง

อารมณ์ “ปกติ”

หากสุนัขกำลังเพลิดเพลิน สุขกายสบายใจ จะยกหัวตั้งสูง หางอยู่ในลักษณะปล่อยนิ่งสบาย ไม่เกร็ง ไม่เหยียด และ อาจทอดลงเล็กน้อย อาจมีลิ้นแผลมห้อยออกมาข้างใดข้างหนึ่ง ซึ่งจะเป็นลักษณะของเป็นหมาที่เป็นมิตร กำลังเบิกบาน พร้อมรับแขก

อารมณ์ “แสดงอำนาจ”

เมื่อเวลาสุนัขของเราเจอกับสุนัขตัวอื่นในรัศมีพื้นที่อาณาบริเวณ หางจะตั้งตรงยกสูง แข็งทื่อ และ ปลายหูตั้ง เพื่อเป็นการแสดงถึงการมีอำนาจเหนือกว่าและไม่กลัวใคร

อารมณ์ “อยากเล่นด้วย”

เมื่อสุนัขย่อตัวช่วงหน้าต่ำลง สะบัดหางไปมา พร้อมทำตาหยีหรือกระพริบตาเล็กน้อย นั่นหมายถึงน้องหมากำลังตื่นตัว เวลาความสนุกระหว่างคุณและน้องหมาได้เริ่มขึ้นแล้ว แต่ถ้าหากสุนัขมีอาการกระพริบตาถี่ๆ หรือ บ่อยมากจนเกิน ก็อาจมีสาเหตุมาจากการเคืองตาได้เช่นเดียวกัน

อารมณ์ “ระวังตัว”

เมื่อสุนัขย่อตัวช่วงหลังต่ำลง หุบปากสนิท หางตรงเฉียงลงพื้นและหยุดแกว่ง แสดงว่าสุนัขกำลังระแวดระวังตัวกับสิ่งรอบข้าง

อารมณ์ “กังวลหรือทุกข์ใจ”

หากหางของสุนัขกดลงต่ำ โดยปิดรูก้นแต่ก็ยังไม่หายเข้าไปในระหว่างขา แสดงว่าสุนัขกำลังรู้สึกไม่สบายใจ รู้สึกกังวล ประหม่า หรือ ไม่แน่ใจ รวมถึงน้องหมาอาจกำลังประมวลผลสิ่งที่เพิ่งได้รับรู้ อย่าง คำสั่งจากการฝึก

อารมณ์ “ดีใจ”

เมื่อเห็นหางสะบัดไป-มา แกว่งหางเป็นรูปทรงวงกลมใหญ่ๆ นั่นหมายถึงเจ้าตูบกำลังดีใจที่ได้พบกับเจ้าของ ยิ่งถ้าฉีกยิ้มอย่างอ่อนน้อมหรืออ้าปากเล็กน้อยก็บ่งบอกได้ถึงความเป็นมิตรมากเท่านั้น แต่ถ้าแกว่งอย่างรวดเร็ว คล่องแคล่ว หรือ เกือบสั่นระริก นั่นก็อาจหมายถึงความตึงเครียดหรือการไม่เป็นมิตรได้เช่นเดียวกัน

CR.baanlaesuan