เมื่อน้องแมวขาอ่อนแรง เดินเซ เดินขาปัด สิ่งแรกที่จะทำ ก่อนพาไปพบหมอให้วินิจฉัยแยกโรค เพื่อดูว่า เป็นโรคทางระบบประสาทหรือไม่

ให้สังเกตุ ดูว่าสัตว์ป่วยมีความผิดปกติของท่าทางหรือการเคลื่อนไหว หรือไม่

เช่น เดินขาปัดไปปัดมา ลุกไม่ขึ้น เดินขาลาก

เพราะถ้าแมวป่วยและมีอาการทางระบบประสาท จะมีท่าทางหรือการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ

ลำดับถัดไป คือ พาไปพบหมอ เพื่อจะได้บอกได้ว่า อาการความผิดปกตินั้นมาจากอวัยวะ หรือโครงสร้างใดของร่างกายใด โดยอาศัยการตรวจทางระบบประสาท เพื่อเลือกวิธีการรักษาและพยากรณ์โรคต่อไป

โรคทางระบบประสาทที่พบได้บ่อยที่สุด ได้แก่

ภาวะหมอนรองกระดูกเกิดความเสียหาย

เจ้าของมักจะพาแมวที่เลี้ยงมาด้วยอาการเดินไม่ได้อย่างเฉียบพลัน อาจเป็นได้ทั้ง 4 ขา หรือ 2 ขาหลังก็ได้

หากแมวมีอาการขาอ่อนแรง นั่นแสดงว่าความผิดปกติอยู่ที่ส่วนหลัง 

การที่จะแยกว่าเป็นความผิดปกติของไขสันหลังหรือสมองนั้น สามารถทำได้โดยการตรวจทางระบบประสาทว่ามีความผิดปกติของเส้นประสาทสมองหรือไม่ หากพบความผิดปกติ แมว

โดยปกติหมอนรองกระดูกสันหลัง จะมีโครงสร้างด้านใน ที่มีลักษณะอ่อนนุ่มคล้ายเจล และมีโครงสร้างรอบนอกมีลักษณะเป็นล้อมรอบคล้ายวงปี

โดยหลักๆสามารถแบ่งภาวะหมอนรองกระดูกเคลื่อนออกได้เป็น 2 กลุ่ม คือ

• 1 เกิดจากส่วนระบบประสาทฉีกขาด แมวจะมีอาการเดินไม่ได้แบบเฉียบพลัน มักพบในลูกแมวอายุน้อย  มีอาการปวดรุนแรง เกิดอัมพาตโดยเฉียบพลัน กล้ามเนื้อเกร็ง ไม่ยอมขยับเขยื้อน เดินไม่ได้
• 2 เกิดจากหมอนรองกระดูกอยู่ผิดตำแหน่ง ทำให้การดำเนินไปของโรคเป็นแบบเรื้อรัง แมวอาจมีอาการขาอ่อนแรงมาเป็นระยะเวลา 2-3 เดือนก่อนจะเดินไม่ได้ มักพบได้ในแมวอายุมาก สุ เริ่มจากมีอาการอ่อนแรงก่อน ไม่ค่อยขึ้นบันได ไม่กระโดดขึ้นรถ เดินได้ไม่ไกลเท่าเดิม มักจะไม่มีอาการปวด

#วิตามินแมวเดิน #เซ #ขาหลัง #ไม่มี #แรง #แมวเดินไม่ได้ #ระบบประสาท #แมวขาหลังหัก #แมวโดนกัดเดินไม่ได้ #แมวฉีดยาแล้วเดินไม่ได้ #แมว


แมวไม่มีแรงกินอะไรดี,
แมวขาหลังอ่อนแรง pantip,
แมวไม่มีแรงเดิน,
แมวเดินเซรักษา,
แมวเดินย่อขาหลัง,
แมวเดินเซ ถ่ายเหลว,
ลูกแมวไม่มีแรงเดิน,
ลูกแมวเดินแปลกๆ,