ในการเดินทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางรถยนต์นั้น น้องหมาที่ไม่คุ้นเลยอาจเครียด กลัว เวียนหัว และอาเจียนได้ ดังนั้นเราจึงควรฝึกให้สุนัขเคยชินกับการเดินทางไว้บ้าง เริ่มต้นจาก

ฝึกน้องหมาล่วงหน้า

• ก่อนจะพาน้องหมาเดินทาง ต้องมั่นใจก่อนว่าน้องหมาของเรามีสุขภาพดี ฉีดวัคซีนครบ อีกทั้งเชื่อฟังและทำตามคำสั่งเราได้ ไม่ว่าจะเป็น การนั่ง การคอย การใช้สายจูง ฯลฯ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เช่น พลัดหลงกับเจ้าของ ดื้อ ซุกซน ตื่นตระหนกจนเกิดอุบัติเหตุต่างๆ ระหว่างขับรถ ไม่สร้างความเดือดร้อนหรือแสดงพฤติกรรมดุร้าย ก้าวร้าว กับคนแปลกหน้า เป็นการแสดงถึงการเป็นผู้เลี้ยงน้องหมาที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมอีกทางหนึ่ง
• พาน้องหมาของเราไปนั่งเล่นบนรถบ่อยๆ เพื่อสร้างความคุ้นเคย ไม่จำเป็นต้องให้รถวิ่งก็ได้ จอดเฉยๆ เปิดประตูสี่ด้าน เล่นกับเค้าบนรถ หรือไม่ก็ล่อให้เค้าไปกินอาหารบนรถ ให้เค้ารู้สึกว่ารถเป็นสิ่งที่สนุกไม่น่ากลัว ฝึกวันละ 10-15 นาที ประมาณ 1-2 สัปดาห์ จนน้องหมาเริ่มคุ้นเคย
• การฝึกให้ไม่กลัวการเดินทาง อาจต้องใช้เวลาฝึกล่วงหน้าก่อนเดินทางอย่างน้อย 1-2 เดือน เพื่อให้สุนัขคุ้นเคยกับการนั่งรถที่กำลังแล่น โดยพาออกนอกบ้านหรือนั่งรถบ่อยๆ เริ่มจากระยะเวลาสั้นๆ 10-15 นาที แล้วค่อยๆ เพิ่มเป็น 30-60 นาที ถ้าน้องหมามีอาการตื่นกลัว ไม่ควรโอ๋หรือปลอบโยน จะยิ่งทำให้น้องหมารู้สึกว่าความกลัวของเค้าได้รับการยอมรับ แต่ถ้าน้องหมาสงบจากการพาออกนอกบ้าน หรือออกเที่ยวจึงค่อยให้คำชมและให้รางวัลเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีในการออกจากบ้านแก่มัน
• ถ้าไม่อยากเสี่ยงต้องมาเช็ดอาเจียน และน้ำลายน้องหมา หาผ้ายางพลาสติกหรือผ้าปูบนรถสำหรับสุนัขมาคลุมเบาะไว้ก่อน ที่สำคัญห้ามให้น้องหมากินอะไร 2-3 ชั่วโมงก่อนขึ้นรถเด็ดขาด ไม่งั้นได้เช็ดอ้วกแน่ๆ
• เมื่อฝึกได้ในระยะเวลาหนึ่งแล้วน้องหมาก็จะชินแล้วก็ชื่นชอบกับการเดินทางไปเอง

ข้อควรระวังที่เจ้านายทุกคนต้องจำไว้

• ทำให้น้องหมาผ่อนคลายด้วยการพาออกไปเดินเล่นก่อนเดินทางสักประมาณ 10-15 นาที
• ถ้าน้องหมาคุ้นเคยกับกรง คอกหรือกล่องใส่สัตว์เลี้ยง อาจนำใส่น้องหมาไว้ในนั้น พร้อมของเล่น หมอน ตุ๊กตาหรือผ้าผืนโปรดของเค้าติดไปด้วย ไว้ให้เล่นเพลินๆ ขณะเดินทาง เค้าจะได้ไม่รู้สึกตื่นเต้น และไม่มาวุ่นวายกับเจ้าของเวลาขับรถด้วย
• ในกรณีที่ไม่ได้ใส่กรง ไม่ควรปล่อยน้องหมาเดินเพ่นพ่านในรถ ควรมีคนนั่งไปด้วยคอยดูแล ไม่ไปรบกวนสมาธิคนขับ เพราะหากมีการเบรกกะทันหันหรือเกิดอุบัติเหตุ ร่างกายของสุนัขอาจปลิวทะลุกระจกออกนอกรถ หรือกระแทกเข้ากับคนในรถจนเกิดการบาดเจ็บหนักได้
• น้องหมาพันธุ์ใหญ่และค่อนข้างซน อย่างโกลเดนรีทรีฟเวอร์ เกรทเดน ดัลเมเชี่ยน หรือพันธุ์ไทย ควรให้นั่งเบาะหลัง มีคนคอยจับ หรือใช้สายล่ามแบบครึ่งตัว (ไม่ใช่แค่ปลอกคอ) แล้วล็อคหรือคล้องไว้กับเข็มขัดนิรภัย อุปกรณ์เสริมอย่างที่กั้นระหว่างเบาะหน้า/หลังเป็นสิ่งจำเป็น เมื่อพานั่งรถบ่อยๆ เค้าจะเริ่มชินและสงบนิ่งมากขึ้นเอง
• เวลาที่เราจอดรถเติมน้ำมัน หรือจอดแวะกินข้าวให้นำน้องหมาใส่สายจูงลงไปขับถ่าย ดื่มน้ำ และเดินเล่นบ้าง สุนัขจะได้ผ่อนคลาย อย่าปล่อยทิ้งไว้ในรถตามลำพัง อุณหภูมิในรถจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อจอดรถกลางแดด ถ้าจะไปในสถานที่ๆ นำหมาเข้าไปด้วยไม่ได้ ก็ควรฝากไว้กับสถานที่รับฝาก หรือถ้าไม่มีก็ต้องมีสมาชิกสักคนเสียสละอยู่เป็นเพื่อนหมา
• ติดชื่อเจ้าของและเบอร์โทรศัพท์มือถือไว้ที่ปลอกคอ เผื่อน้องหมาสูญหายหรือ ประสบอุบัติเหตุพลัดหลงระหว่างเดินทาง คนที่เจอจะได้ติดต่อมาสะดวก ในรายที่รักน้องหมามากๆ อาจเลือกทำประกันภัยสัตว์เลี้ยงให้ลูกของคุณด้วยก็ได้

ไม่ใช่เรื่องยากเลย แรกๆ อาจจะต้องอาศัยความพยายามนิดหน่อย แต่ถ้าฝึกสำเร็จ การเดินทางของคุณและน้องหมาสุดเลิฟก็จะสนุกและมีความสุขขึ้นอีกเยอะเลย