โดยปกติแล้วอุณหภูมิของร่างกายน้องหมาจะอยู่ที่ประมาณ 37 องศาเซลเซียสเช่นเดียวกับเราค่ะ แต่เมื่อใดที่อุณหภูมิในร่างกายของพวกเขาเกิดสูงขึ้นถึง 39 องศาเซลเซียสแสดงว่าผิดปกติ ซึ่งถ้าปล่อยไว้นานน้องหมาจะเกิดอาการฮีตสโตรก ร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนและทนต่อความร้อนได้ แล้วเมื่อใดที่อุณหภูมิในร่างกายแตะถึง 41 องศาเซลเซียส หรือมากกว่านั้น อวัยวะภายในร่างกายของพวกเขาก็จะถูกทำลายเสียชีวิตอย่างทุกทรมานในที่สุด 

 

     อย่างไรก็ตาม โอกาสที่น้องหมาจะเสียชีวิตจากอาการฮีตสโตรกนี้เกิดขึ้นได้ไม่มากนักหากผู้เลี้ยงคอยสังเกตอาการพฤติกรรมของน้องหมาว่ามีความผิดปกติหรือไม่ ในทันทีที่เห็นจะต้องรีบช่วยเหลือช่วยพาเขาเข้าสู่ที่ร่มและเย็น หาน้ำให้กิน ทำให้อุณหภูมิร่างกายน้องหมาลดลงในทันที ซึ่งอาการอันเป็นสัญญาณว่าน้องหมาทนร้อนไม่ไหวแล้วสามารถสังเกตได้จากการและพฤติกรรมดังต่อไปนี้ค่ะ 

 

 

 

 

 

     ปกติแล้วน้องหมาจะหายใจอยู่ที่ประมาณประมาณ 30 – 40 ครั้ง/นาที แต่ถ้าอากาศร้อน หรือรู้สึกเหนื่อยพวกเขาก็จะหายใจสั้น และถี่ขึ้นคล้ายกับหายใจหอบ เฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 300 – 400 ครั้ง/นาทีเลยทีเดียว นั่นก็เพื่อเป็นการช่วยระบายความร้อนที่อยู่ภายในร่างกาย โดยจะมีการระเหยไอน้ำซึ่งเป็นความชื้นออกมาบริเวณลิ้นช่วยให้อุณหภูมิร่างกายลดลง อย่างไรก็ตาม การหายใจหอบหนักมาก ๆ จะยิ่งทำให้ร่างกายน้องหมาเกิดภาวะขาดน้ำ ปอดและหัวใจทำงานหนักมากขึ้น อาจส่งผลให้ช็อกได้ค่ะ 

 

 

 

     เมื่อร่างกายน้องหมาขาดน้ำจะมีการหอบและผลิตน้ำลายออกมาเพิ่มมากขึ้นเพื่อช่วยระบายความร้อน ซึ่งลักษณะน้ำลายที่ออกมานั้นมักเกิดจากภาวะร่างกายขาดน้ำจึงมีลักษณะเหนียวข้นหนืดเลอะรอบปากและยืดไหลยังบริเวณคางและอก  หากน้องหมาตัวใดน้ำลายเกิดเหนียวและหนามาก ๆ  ก็จะส่งผลให้น้องหมามีปัญหาการกลืนน้ำลาย การระบายความร้อนบริเวณลิ้นไม่มีประสิทธิภาพมากพอที่จะคายความร้อน ร่างกายน้องหมาก็จะยิ่งมีอุณหภูมิสูงมากขึ้นได้นั่นเอง 

 

 

 

 

 

      ภาวะขาดน้ำ หรือ ที่รู้จักกันว่า Dehydration เกิดจากร่างกายสูญเสียน้ำออกไปมากกว่าการรับเข้าไป เป็นผลทำให้น้องหมาเกิดอาการผิดปกติต่าง ๆ ตามมาเช่น เยื่อเมือกแห้ง เบ้าตาลึก เหงือกแห้งจมูกแห้ง กล้ามเนื้ออ่อนแรง และมีอาการทางประสาท หรือ อาจถึงขั้นช็อกเสียชีวิตได้เลยทีเดียวค่ะ ซึ่งภาวะขาดน้ำนี้หากไม่สังเกตอย่างใกล้ชิด ยากจะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ผู้เลี้ยงจึงคลาดสายตาไม่ได้เลย ไม่เช่นนั้นจะนำไปสู่อาการต่าง ๆ รวมถึงหอบและน้ำลายเหนียวอย่างที่กล่าวไปได้อีกด้วย ดังนั้น ผู้เลี้ยงควรจะคอยดูแลให้น้ำน้องหมาเป็นระยะเพื่อป้องกันการเกิดภาวะขาดน้ำนั่นเอง

 

     ในการตรวจเช็กภาวะขาดน้ำก็ทำได้ง่าย ๆ เพียงดูความยืดหยุ่นของผิวหนัง โดยให้เราดึงผิวหนังน้องหมาขึ้น ถ้าผิวหนังเด้งกลับเข้าที่เดิมได้ภายใน 1-2 วินาที แสดงว่าปกติแต่ถ้าคืนตัวกลับช้าลง ก็แสดงว่าน้องหมาอาจมีภาวะขาดน้ำได้ค่ะ 

 

 

 

 

 

 

    การตรวจเช็กสีลิ้นเป็นหนึ่งในวิธีการเช็กสุขภาพน้องหมาว่าปกติดีหรือไม่ หากสุขภาพปกติดีลิ้นจะมีสีแดงชมพูแต่ถ้าเห็นว่าลิ้นหรือเหงือกของน้องหมาดูม่วงคล้ำ  แสดงว่าน้องหมาอาจมีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ การไหลเวียนของเลือด ร่างกายอยู่ในภาวะตึงเครียด และ มีโอกาสเกิดอาการช็อกหมดสติได้ ซึ่งภาวะน้องหมาอยู่ในอุณหภูมิที่ร้อนมากจนร่างกายรับไม่ไหว ร่างกายจะเร่งทำงานเพื่อระบายความร้อน หายใจหอบถี่ขึ้น ชีพจรเต้นแรง ระบบการไหลเวียนของเลือดไม่ปกติ ช็อกหรือหัวใจล้มเหลวได้เลยทีเดียว  เพราะฉะนั้น ถ้าเห็นว่าน้องหมาลิ้นเปลี่ยนเป็นสีม่วง ร่างกายอ่อนเพลียให้รีบพาเข้าที่ร่ม ดื่มน้ำ ทำให้ร่างกายเย็นขึ้น และรีบพาไปส่งโรงพยาบาลทันที 

 

 

 

 

 

 

     น้องหมาที่อาเจียนเป็นเลือดเพราะความร้อน ส่วนใหญ่จะอยู่ในขั้นที่เรียกได้ว่าจะโคม่า อวัยวะในร่างกายกำลังถูกทำลายจากความร้อนและจากการเร่งระบายความร้อนจนร่างกายทนไม่ไหว ระบบการไหลเวียนของเลือดมีปัญหา อวัยวะภายในถูกทำลาย และเกิดภาวะขาดน้ำ จึงมีการอาเจียนออกมาเป็นเลือดในลักษณะคล้ายกับเมือกน้ำลายเหนียว ซึ่งน้องหมาส่วนใหญ่ที่มีอาการนี้ มักเป็นน้องหมาที่ถูกทิ้งไว้ในรถหรือในห้องที่แคบ อากาศไม่ถ่ายเท แสงแดดสาดเข้าถึงตรง ๆ โดยที่น้องหมาไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ สุดท้ายจึงเกิดอาการฮีตสโตรกหนักจนอวัยวะภายในร่างกายล้มเหลวนั่นเองค่ะ 

 

 

 

     เป็นอาการน้องหมาที่ร่างกายมีความร้อนมากเกินจะหายใจยากขึ้น หัวใจเต้นแรง หายใจหอบถี่ จนร่างกายเหนื่อยล้าอ่อนเพลีย อาเจียนเป็นเลือด จนท้ายที่สุดร่างกายทนรับความร้อนและทำงานไม่ไหวก็จะเกิดอาการช็อกหมดสติในที่สุด  หากพบว่าน้องหมาของเรามีหัวใจเต้นแรงขึ้น อยู่ในระดับไม่ปกติให้เราเคลื่อนย้ายน้องหมาไปอยู่ในที่ร่มในห้องแอร์ ให้น้องหมากินน้ำ เพื่อให้อุณหภูมิร่างกายลดลง แต่ถ้าน้องหมาเกิดอาการช็อกหรือหมดสติให้รีบพาน้องหมาไปโรงพยาบาลทันที ไม่ต้องรอให้น้องหมาฟื้นก่อนนะคะ 

 

 

 

 

 

 

 

     - หลีกเลี่ยงการให้น้องหมาอยู่ในรถเพียงลำพังแม้เพียงไม่กี่นาทีก็ตาม หรือปล่อยให้อยู่ในห้องที่แดดเข้าถึงอากาศไม่ถ่ายเท หรือ ล่ามไว้กลางแจ้ง พาออกไปวิ่งเดินเล่น ทำกิจกรรมช่วงที่แดดยังร้อนอยู่ ให้พาไปเดินเล่นช่วงเช้าและช่วงเย็นแทน

     - กระตุ้นให้น้องหมาดื่มน้ำเป็นช่วง ๆ ตลอดวัน ถ้าน้องหมาไม่ค่อยกินน้ำอาจใช้วิธีผสมอาหารเปียกกับอาหารเม็ด หรือจับน้องหมาบังคับดื่มน้ำจากไซริงค์  

     - คอยสังเกตอาการของน้องหมาว่ากำลังต่อสู้กับความร้อนอยู่หรือไม่ โดยให้สังเกตจาก 6 อาการข้างต้น และอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น อาเจียน ดื่มน้ำบ่อย ผิวเหี่ยว ดูอิดโรยไม่มีแรง  น้ำลายเหนียว หัวใจเต้นแรง  ถ้ามีอาการดังกล่าวให้ช่วยน้องหมาออกจากพื้นที่และรีบช่วยคลายความร้อนโดยด่วนค่ะ  

 

 

 

 

 

Cr. บทความโดย : Dogilike

 

 

 

 

 

ข้อมูลอ้างอิง :
 

http://www.petmd.com/dog/conditions/cardiovascular/c_dg_heat_stroke

http://www.wikihow.com/Treat-Heat-Stroke-in-Dogs

http://www.peteducation.com/article.cfm?c=2+1677&aid=1683

http://www.petwave.com/Dogs/Health/Heat-Stroke/Symptoms.aspx

http://healthypets.mercola.com/sites/healthypets/archive/2013/08/26/dog-tongue.aspx

https://dogvacay.com/blog/signs-of-dehydration-and-heatstroke-in-dogs/

 

 

ภาพประกอบ :
 

http://dogtime.com/dog-health/general/2590-heat-stroke-dogs

http://www.examiner.com/slideshow/excessive-drooling-dogs

http://adelaidevet.com.au/pet-library/why-do-dogs-pant

http://www.howwhywhere.com/Determine-if-a-Dog-Is-Dehydrated/

https://pethelpful.com/dogs/What-Makes-a-Dogs-Gums-Pale

http://www.kcsaa.org.tw/Joomla_159/index.php?option=com_content&view=article&id=2023:31th-august2009-qpoor-dog-named-old-mi-is-being-tortured-over-a-long-period-of-timeq&catid=207:20098&Itemid=268

http://dogsaholic.com/care/how-much-water-should-a-dog-drink.html