- ข้อความ
- ตั้งค่า
- FAVORITES
- หน้าข่าว
- บล็อกของฉัน
- My Products
- Saved Posts
- ADVERTISING
- Ads Manager
- Boosted Posts
- Boosted Pages
- EXPLORE
- ผู้คน
- Pages
- กลุ่ม
- Events
- Blogs
- ทะเบียนอาหารสัตว์
วิธีทำให้น้องหมา ไม่กลัวหมอ
สุนัขไม่มีแรง เดินเซ อาการ ขา สุนัข ไม่มี แรง โกลเด้น ขาหลังไม่มีแรง โกลเด้น เจ็บขา ลาบราดอร์ ขาหลังไม่มีแรงเชื่อว่า เวลาที่ผู้เลี้ยงพาน้องหมาตัวโปรดไปคลินิก หรือโรงพยาบาลสัตว์ต่างก็ต้องเคยเจอสถานการณ์ที่น้องหมาพยายามดิ้น วิ่งหนี ตัวสั่น และมีอาการวิตกกังวลเมื่อก้าวเท้าเข้าไปในคลินิก ซึ่งบางครั้งก็ทำให้เกิดความวุ่นวาย และทำให้การพาน้องหมาไปหาคุณหมอเป็นเรื่องยากลำบากกันใช่ไหมละคะ ...
เทคนิคการเลี้ยงการดูแล ในวันนี้ ปังปอนด์ก็เลยจะมาบอกเคล็ดลับดี ๆ ในการเตรียมตัว และทำให้น้องหมามีความมั่นใจ ไม่หวาดกลัว เมื่อต้องพาน้องหมาไปหาคุณหมอมาฝากกันค่ะ ว่าแต่จะมีเคล็ดลับอะไรบ้าง เราไปติดตามกันเลย
ไขข้อสงสัยทำไมน้องหมาถึงไม่ชอบโรงพยาบาลสัตว์?
หลาย ๆ คนอาจจะมีข้อสงสัยว่า ทำไมเวลาพาน้องหมาไปหาหมอที่คลินิกหรือโรงพยาบาลรักษาสัตว์แล้วน้องหมามักจะมีอาการหวาดกลัวไปซะทุกที และมีมีนิสัยที่แตกต่างกันสุดขั้วเมื่อต้องออกจากบ้านไปโรงพยาบาลสัตว์ ตัวอย่างเช่น น้องหมาบางตัวเวลาอยู่ที่บ้านจะมีนิสัยตื่นตัว ทำหน้าที่เฝ้าบ้าน ชอบเห่าคนแปลกหน้า หรือแขกที่มาเยือนเสมอ แต่เมื่อถึงเวลาพาไปคลีนิครักษาสัตว์ทีไร น้องหมาก็จะมีอาการหวาดกลัว ตัวสั่น ไม่กล้าสบตา ทำตัวแข็งไม่ยอมเดิน ไม่ส่งเสียงเห่าให้รำคาญ แถมยังนั่ง นอนนิ่ง ๆ ถึงแม้จะมีคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักมากมายในคลินิกก็ตาม ในขณะที่บางตัวเวลาอยู่ที่บ้านเป็นน้องหมาที่มีนิสัยเรียบร้อย น่ารัก ไม่เคยเห่าหรือขู่ใคร กลับมีนิสัยเปลี่ยนไปกลายเป็นน้องหมาที่มีนิสัยก้าวร้าว
ซึ่งต้องขออธิบายก่อนเลยค่ะว่า สาเหตุที่น้องหมามีนิสัยที่เปลี่ยนไป และแสดงอาการของความหวาดกลัวออกมาเมื่อต้องเข้าไปในคลินิก หรือโรงพยาบาลรักษาสัตว์นั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะน้องหมาแปลกสถานที่ ไม่คุ้นเคยและรู้สึกไม่มั่นคงทางอารมณ์ รวมถึงในคลินิกและโรงพยาบาลรักษาสัตว์นั้นจะมี “กลิ่น” มากมายของสัตว์หลากหลายชนิด ทำให้น้องหมาสับสน และจะแสดงสัญชาติญานการเอาตัวรอด ก็คือ การพยายามหลบหนี จึงทำให้เราเห็นอยู่บ่อย ๆ ว่า น้องหมาพยายามดิ้น วิ่งหนี ส่งเสียงเห่าและขู่สิ่งต่าง ๆ รอบตัว และบางตัวไม่อยากแม้แต่จะก้าวเข้าไปในคลินิคหรือโรงพยาบาลสัตว์เลยละค่ะ
สำหรับวิธีที่จะช่วยแก้ปัญหาน้องหมาหวาดกลัว เวลาพาน้องหมาไปหาคุณหมอก็สามารถทำได้ง่ายมาก ๆ เลยค่ะ เพียงแค่ทำตามเคล็ดลับง่าย ๆ ต่อไปนี้ค่ะ
1.สร้างความคุณเคย และเสริมแรงทางบวก
วิธีที่จะทำให้น้องหมาไม่หวาดกลัวการไปคลินิกสัตว์ ผู้เลี้ยงอาจเริ่มต้นง่าย ๆ โดยการพาน้องหมาไปออกสังคมบ่อย ๆ เช่น พาน้องหมาไปเดินเล่นที่สวนสาธาณะ หรือเดินเล่นในหมู่บ้าน เพื่อให้น้องหมาได้เรียนรู้สภาพแวดล้อม ให้โอกาสน้องหมาได้เล่นและดมกลิ่นน้องหมาตัวอื่น ๆ เพื่อให้เค้าเกิดความเคยชิน รู้จักการเข้าสังคม ปรับตัวให้เขากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปค่ะ
นอกจากนี้แล้ว ผู้เลี้ยงอาจจะฝึกให้น้องหมาคุ้นเคยกับกลิ่นและบรรยากาศของคลินิกสัตว์ตั้งแต่น้องหมายังเด็ก โดยใช้โอกาสเวลาที่คุณหมอนัดฉีดวัคซีนตามโปรแกรมของน้องหมา ให้น้องหมาได้เห็นบรรยากาศ จดจำกลิ่น และให้รางวัลด้วยคำชมซึ่งเป็นการเสริมแรงทางบวก ให้น้องหมารู้สึกดีกับการมาคลินิกค่ะ
2.เตรียมพร้อมก่อนพาน้องหมาไปหาหมอ
ปัจจัยสำคัญที่จะช่วยทำให้น้องหมาไม่หวาดกลัวการไปหาหมอ ก็คือ “การสร้างความมั่นใจ” ให้กับน้องหมา โดยวิธีง่าย ๆ เลยก็คือ การจัดพื้นที่ภายในรถยนต์ให้น้องหมารู้สึกผ่อนคลาย สบาย ไม่อึดอัดค่ะ โดยในลูกสุนัขผู้เลี้ยงก็อาจจะหาตะกร้าและใส่ผ้าขนหนูไว้ภายในให้น้องหมาได้นอน หรืออาจจะผ้าอ้อม ห่อตัวและอุ้มไว้บนตักก็ได้ค่ะ (ก่อนพาน้องหมาขึ้นรถแนะนำว่า ควรงดอาหารน้องหมาก่อนประมาณ 1 ชั่วโมงเพื่อป้องกันน้องหมาเมารถด้วยนะคะ) ซึ่งในระหว่างทางผู้เลี้ยงก็อาจจะให้น้องหมาได้สำรวจ มองบรรยากาศภายนอกรถเพื่อให้น้องหมารู้ว่า การออกมานอกบ้านไม่เป็นอันตรายกับเขาค่ะ
นอกจากนี้แล้ว ผู้เลี้ยงก็ควรเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม เช่น สายจูง ทิชชูเปียก กระดาษชำระ ชามน้ำไว้ให้น้ำในระหว่างรอการรักษาเพื่อให้น้องหมาได้กินน้ำ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นค่ะ
3.ให้น้องหมาสำรวจพื้นที่
เมื่อผู้เลี้ยงพาน้องหมามาถึงคลินิก หรือโรงพยาบาลสัตว์แล้ว แนะนำว่า ผู้เลี้ยงไม่ควรให้น้องหมาขี้หวาดกลัวเขาไปภายในคลินิกทันทีนะคะ แต่ควรพาน้องหมาสำรวจพื้นที่ด้านนอกคลินิก หรือโรงพยาบาลสัตว์ก่อน ถ้าหากมีสนามหญ้ารอบโรงพยาบาลก็อาจจะใส่สายจูงพาน้องหมาไปเดินดมกลิ่นเพื่อสำรวจพื้นที่ ให้ประสาทการรับรู้กลิ่นได้ทำงาน เมื่อน้องหมาได้เดิน สัมผัสดินและหญ้าจะทำให้น้องหมามีความมั่นใจได้ในระดับหนึ่ง ค่อย ๆ ช่วยให้น้องหมารับรู้ว่า พื้นที่และกลิ่นใหม่นี้ไม่ได้เป็นอันตรายกับเขา และเมื่อน้องหมาเริ่มมั่นใจและไม่มีอาการต่อต้านแล้ว จึงค่อยพาน้องหมาเข้าไปยังคลินิกรักษาสัตว์ค่ะ
ทั้งนี้ ผู้เลี้ยงก็ควรที่จะเผื่อเวลาให้น้องหมาได้เดินสำรวจพื้นที่รอบนอกคลินิก ก่อนถึงเวลานัดคุณหมอทุก ๆ ครั้งนะคะ เพื่อจะได้ลดความตื่นกลัว เพราะไม่อย่างนั้นแล้วหากเอาน้องหมาลงจากรถยนต์แล้วพาเข้าไปคลินิกทันที น้องหมาก็จะรับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว และอาจส่งผลต่ออารมณ์ ทำให้เกิดการตื่นกลัวที่อาจจะอยู่เหนือการควบคุมของผู้เลี้ยงก็ได้ค่ะ
4.น้องหมานิสัยขี้กลัว ต้องดูแลใกล้ชิด
สำหรับน้องหมาที่ปกติมีนิสัยขี้กลัวอยู่แล้ว และเมื่อต้องพาไปคลินิกผู้เลี้ยงจำเป็นอย่างยิ่งค่ะที่จะต้องดูแลน้องหมาอย่างใกล้ชิด ในน้องเด็กหรือน้องหมาพันธุ์เล็ก ผู้เลี้ยงควรอุ้มให้อยู่กับตัว หรือใส่ตะกร้าที่มีฝาปิดเสมอ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากน้องหมาตัวใหญ่ตัวอื่น ๆ ที่อาจมีนิสัยดุทำร้าย หรืออาจจะตื่นกลัวพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคยเหมือนกันแล้วเข้ามากัด หรือทำร้ายได้ค่ะ (หากเพื่อน ๆ คนไหนมีน้องหมาที่มีนิสัยดุ และมีประวัติกัดคนหรือสัตว์เลี้ยงมาก่อน แนะนำว่า ควรหาที่ครอบปากมาใส่ให้กับน้องหมาเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับคน และน้องหมาตัวอื่น ๆ ในคลินิกด้วยนะคะ )
ในระหว่างนั่งรอการรักษา ผู้เลี้ยงก็อาจจะใช้มือลูบหัวปลอบใจ และพูดคุยกับน้องหมาบ้างเพื่อให้น้องหมาขี้กลัวรู้สึกมั่นใจ และรู้สึกอุ่นใจมากยิ่งขึ้น เพราะน้องหมาที่มีนิสัยขี้กลัวมักจะวิตกและมีความกลัวว่า พวกเขาอาจจะถูกทอดทิ้ง และอาจใช้วิธีนำของเล่น หรือตุ๊กตาตัวโปรดที่น้องหมาเล่นที่บ้านเป็นประจำมาให้น้องหมาเล่นเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ก็จะสามารถช่วยได้เช่นกันค่ะ
5.ให้รางวัลเมื่อเสร็จการรักษา
เมื่อพาน้องหมาไปฉีดวัคซีน หรือทำการรักษาอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ เสร็จแล้ว สิ่งที่ผู้เลี้ยงไม่ควรลืมเลยก็คือ การให้รางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ กับน้องหมาเพื่อบอกว่า น้องหมาทำได้ดีแล้ว โดยอาจจะหาขนมสัก 1-2 ชิ้น มามอบให้น้องหมา แล้วเอ่ยชมว่า ทำดีแล้ว เก่งมาก เพียงเท่านี้น้องหมาก็จะรู้สึกดีขึ้น และจำว่า การมาหาหมอไม่ใช่เรื่องน่ากลัว และมีอารมณ์ทางบวกกับการออกไปนอกสถานที่ ๆ ไม่คุ้นเคยค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับเทคนิคดี ๆ ที่ปังปอนด์นำมาฝากกัน ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ สำหรับเพื่อน ๆ ที่มีน้องหมาขี้กลัว เพื่อน ๆ ก็ต้องมีความใจเย็น และค่อย ๆ ปรับเปลี่ยน สร้างความมั่นใจให้กับน้องหมา ให้น้องหมาได้รู้จักสังคมมากขึ้น เชื่อว่า เมื่อน้องหมามีความมั่นใจมากขึ้นแล้ว ก็จะช่วยทำให้ความกลัวนั้นค่อย ๆ หายไปอย่างแน่นอนค่ะ ^_^
บทความโดย: Dogilike
สั่งซื้อ CalFlex ตอนนี้ลดราคาจาก 1280 บาท เหลือ 1150 บาทเท่านั้น เลขจดแจ้ง 0108640006
- Japan
- chat
- vs
- ภาษาหมา
- Golden Retriever โกลเด้น
- Labrador Retriever ลาบราดอร์
- Siberian Husky ไซบีเรียน ฮัสกี้
- Pug ปั๊ก
- Beagle บีเกิ้ล
- Pomeranian ปอมเมอเรเนียน
- Chihuahua ชิวาวา
- Shihtzu ชิห์สุ
- บางแก้ว
- หมา แมว
- สุนัขไม่มีแรง เดินเซ อาการ ขา สุนัข ไม่มี แรง โกลเด้น ขาหลังไม่มีแรง โกลเด้น เจ็บขา ลาบราดอร์ ขาหลังไม่มีแรง
- สุนัข กระเพาะปัสสาวะอักเสบ รักษา สุนัข กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ค่ารักษา สมุนไพรรักษานิ่วในสุนัข อาการกระเพาะปัสสาวะแตกในสุนัข อาหาร สุนัข กระเพาะปัสสาวะอักเสบ สุนัข กระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรัง นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ สุนัข สุนัขเป็นนิ่ว ผ่าตัด อาหารรักษานิ่ว
- แมวเดินเซ pantip แมวมีอาการสั่น ไม่มีแรง แมวคอเอียง เดินเซ แมว ตัวโยก แมวทรงตัวไม่ได้ ลูกแมวเดินแปลกๆ แมว ขาหลัง ไม่มี แรง ทำ ไง ดี แมว กล้าม เนื้อ ขาอ่อน แรง
- สุนัข หายใจติดขัด สุนัขหายใจแรง ตัวสั่น สุนัขหายใจแรง ไม่กินอาหาร ชิวาว่าหายใจติดขัด สุนัขหลอดลมตีบ อาการ สุนัขหายใจแรง
- โรคไตในสุนัขระยะสุดท้าย สุนัขไตวายเฉียบพลัน โรคไตในสุนัข pdf โรคไตสุนัขเกิดจาก อาหารโรคไต สุนัข ป้องกันโรคไต สุนัข อาหารสุนัขโรคไต ทําเอง สุนัขโรคไต ไม่กินอาหาร
- โรคหัดสุนัข หัด สุนัข หัด สุนัข รักษา หาย ไหม หัด สุนัข อาการ โรค หัด สุนัข รักษา หาย โรค หัด สุนัข อาการ โรค หัด สุนัข โรค หัด สุนัข เดิน ไม่ ได้
- ภาษาแมว
- สุนัขกล้ามเนื้ออักเสบ
- นกขาดแคลเซียม อาการ นกทรงตัวไม่ได้ นก ยืนไม่ได้ นกกรงหัวจุก ขา ไม่มี แรง นกขาอ่อนแรง
- Wellness
- Vote
- ภาษานก
- Uncategorized